โรคระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal tract disease)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 6 พฤศจิกายน 2555
- Tweet
โรคระบบทางเดินอาหาร หรือ ย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า GI disease คือโรคต่างๆที่เกิดขึ้น กับอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งได้แก่ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก ตับ ถุงน้ำดี และตับอ่อน
สาเหตุของโรคทางเดินอาหารที่พบได้บ่อยที่สุด คือ -จากการติดเชื้อโรค โดยเชื้อที่พบบ่อยที่สุด คือ การติดเชื้อแบคทีเรีย (เช่น โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคแผลเปบติค โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคอาหารเป็นพิษ โรคไทฟอยด์ โรคไส้ติ่งอักเสบ และอหิวาตกโรค) รองลงไปคือการติดเชื้อไวรัส (เช่น โรคท้องเสีย/ท้องร่วงจากไวรัสโรตา โรคไวรัสตับอักเสบ) และเชื้อพยาธิ (เช่น พยาธิตัวกลม พยาธิเส้นด้าย พยาธิตัวตืด) ส่วนการติดเชื้อรา มักพบในคนที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคบกพร่อง เช่น โรคเอดส์/การติดเชื้อเอชไอวี
นอกจากนั้นสาเหตุที่อาจพบได้ คือ
- จากการอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ (เช่น จากโรคออโตอิมมูน/โรคภูมิต้านตนเอง โรคกระเพาะอาหารอักเสบ)
- การอักเสบหรือการเกิดแผลในทางเดินอาหารจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด (เช่น ยาแก้ปวดในกลุ่มเอนเสดส์/NSAIDs)
- จากสาเหตุทางพันธุกรรม (เช่น โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง)
- การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ (เช่น ถูกแทง ถูกยิง)
- และจากโรคมะเร็ง ซึ่งเกิดได้ในทุกอวัยวะของทางเดินอาหาร (เช่น โรคมะเร็งหลอดอา หาร โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร โรคมะเร็งตับ และโรคมะเร็งตับอ่อน เป็นต้น)
อาการที่ช่วยแพทย์วินิจฉัยว่า สาเหตุของโรคน่าเกิดจากอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร คือ อาการปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด เป็นมูก หรือเป็นมูกปนเลือด หรือมีสีดำและเหนียวเหมือนยางมะตอย การไม่สามารถผายลมได้ตามปกติ และอาการ ตัว ตาเหลือง (โรคดีซ่าน)
อาการที่ควรต้องรีบพบแพทย์ คือ การอาเจียนเป็นเลือด การถ่ายอุจจาระเป็นเลือด เป็นมูก หรือเป็นมูกปนเลือด อาการตัวตาเหลือง อาการปวดท้องร่วมกับมีไข้ และ/หรือ เมื่อปวดท้องร่วมกับไม่ผายลม